เครื่องไล่หนู อุปกรณ์ป้องกันหนูที่ถูกละเลย

จะว่าไปแล้วศัตรูที่อยู่กับครัวเรือนมาช้านาน ทุกยุทุกสมัยคงหนีไม่พ้น “หนู”

ไม่เพียงแต่สร้างความรำคาน แต่มันยังสร้างความสกปรกและพาหะนำโรคมาด้วย และแน่นอนหากจะพูดถึงการ ‘ไล่หนู”คงหนีไม่พ้น กรงดักหนู มาเป็นอันดับต้นๆ แต่หารู้ไหมว่า การที่เราใช้กรงดัก ในทางตรงกันข้าม มันส่งผลทำให้ไปเพิ่มปริมาณหนูในทางอ้อมตามหลักทฤษฎี คือ ปล่อย 1 ตัว เกิด ขึ้น 10 ตัว 

เพราะอะไร นั่นก็เพราะว่า เมื่อเราดักหนูได้ สิ่งที่ตามมาก็คือ เราต้องปล่อยมันไป ซึ่งมันจะไปขยายพันธุ์ และกลับเข้ามาสร้างความรำคานให้เราอยู่ตลอด และยิ่งกว่านั้นหนูมีพฤติกรรมจดจำกลิ่น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ยิ่งดักฟังแล้วนำไปปล่อย ปริมาณหนูยิ่งเพิ่ม

ซึ่งหลายท่านจึงหันไปใช้เครื่องไล่หนู และแน่นอนก็มีบางท่าน ที่ไม่เคยใช้ รวมไปถึงบางท่านก็ยังคงมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับเครื่องไล่หนู

เครื่องไล่หนู ไล่ได้จริงไหม ทำไมกระแสอุปกรณ์ประเภทนี้ถึงไม่ค่อยนิยม แต่ทำไมยังได้รับความนิยมจากผู้ใช้บางกลุ่ม

ANTIPEST จะมาเล่าให้ฟัง

เครื่องไล่หนูเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่ ปล่อยคลื่นออกไปเพื่อทำการไล่ แต่ในทางกลับกัน คลื่นที่ถูกปล่อยออกมาไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง





เครื่องไล่หนู จัดว่าเป็นการไล่ด้วยวิธีทางกายภาพ ซึ่งเป็นการปรับสภาพวงจร เพื่อป้องกันสัตว์รบกวน แต่...คลื่นที่ปล่อยออกไม่ได้ป้องกันแบบ 100% โดยจากค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 70-80% เท่านั้น

นั่นก็เพราะว่า.... การไล่แบบนี้ ไม่ใช่วิธีแบบเคมี แต่เป็นการปรับสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ไม่ให้คุ้นชิน เพราะฉะนั้นอัตรากาลดลงของหนู จะลดลงแบบขั้นบันได ไม่ได้ลดลงหลังจากที่ติดตั้งเครื่องแบบทันทีทันใด

แล้วทำไม คนส่วนมากถึงมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับเครื่องไล่หนู ว่าไล่ไม่ได้ ..?

คำตอบที่แน่นอน นั่นก็คือ การใช้ เครื่องไล่หนู และ เลือกเครื่อง ผิดประเภท โดยทั่วไปเครื่องไล่หนูตามท้องตลาดที่ขายกันอันละไม่กี่ร้อยบาท เป็นเครื่องไล่หนูแบบประเภทคลื่นเดียว ไม่มีระบบการปรับคลื่น ปล่อยคลื่นออกเป็นจังหวะ คลื่นส่งไปตามสายไฟ ทำให้หนูนั้นมีการปรับตัวได้อย่างดี และทนต่อสภาพแวดล้อมได้ 

อีกทั้งการติดตั้งเครื่องที่ผิดประเภท เช่น ติดตั้งนอกบ้าน/สวนหย่อม/หลังคานอกบ้าน การติดตั้งลักษณะนี้เรียกว่า พื้นที่โซนเปิด จึงทำให้การไล่ในกรณีที่ติดเครื่องในพื้นที่แบบนี้ จึงไม่ได้ผล

ลองนึกภาพตามง่ายๆ อย่างเช่น นอกบ้านมีฝุ่นละออง เราจึงยกเครื่องกรองอากาศไปนอกบ้าน แบบนี้ก็คงไม่ช่วยอะไรมากไม่ได้อยู่ดี เพราะพื้นที่เป็นพื้นที่กว้างจึงไม่เหมาะกับการใช้เครื่อง แต่ถ้าต้องการกรองอากาศในห้อง/ออฟฟิศ/บ้าน แบบนี้การกรองอากาศจะได้ผลดี และเห็นผลชัดเจน 

หลากหลายท่านติดตั้งเพื่อใช้งานโดยที่ยังไม่ทราบรายละเอียด การไล่จึงได้ผลเป็นลบ เพราะติดตั้งไม่ถูกวิธีและเลือกสภาพพื้นที่ที่ไม่ตอบโจทย์กับสเปคเครื่อง และได้บอกต่อๆกันไป ทำให้เกิดความเชื่อที่ผิดๆ  

ทางที่ดีควรใช้เครื่องไล่หนูระบบมากกว่า 1 คลื่นขึ้นไป เพื่อป้องกันการปรับตัว รวมไปถึงคลื่นที่ใช้งานนั้นต้องไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ปล่อยกระจายออกตัวเครื่อง โดยรวมไปจนถึงคลื่นที่ดีต้องผ่านสิ่งกีดขวางได้ คลื่นที่ไม่สามารถผ่านสิ่งกีดขวางได้ ทำให้รัศมีการครอบคลุมนั้นน้อยมากกว่าปกติ 

การไล่หนูด้วยเครื่องไล่หนู เป็นวิธีสากล ที่ทั่วโลกยอมรับ เนื่องจากการไล่ด้วยวิธีแบบนี้ ไม่ทิ้งสารเคมี สารตกค้าง หรือ เป็นอันตรายต่อผลผลิต ยิ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรม เกี่ยวกับอาหาร แน่นอนว่าปัญหาใหญ่คือ หนูในพื้นที่การผลิต และสิ่งที่สำคัญต่อมาคือ บริษัทอุตสาหกรรมจะไม่นิยมใช้สารเคมีเด็ดขาด เพราะว่าส่งผลทำให้เกิดสารตกค้าง เสี่ยงต่อผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกมีปัญหาและถูกตีกลับ ความเสียหายตีเป็นมูลค่าเยอะ  ดังนั้นอุตสาหกรรมส่วนมาก จึงหันไปใช้งานเครื่องไล่หนูกันมากกว่า เพราะมีความปลอดภัยสูง 

ทำไมติดเครื่องไล่หนู ถึงไล่ไม่ได้ผล ...?   ANTIPEST จะมาวิเคราะห์ 4 กรณี หลักๆ

กรณีที่ 1. การติดตั้ง

การติดตั้งเครื่องในระดับสูงมากเกินไป ทำให้เครื่องปล่อยคลื่นกระจายออกได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ  หลายท่านสับสันระหว่างการติดตั้งใกล้พื้น และ ติดตั้งกับผนังบ้าน ต้องดูที่สเปคเครื่องไล่หนู ว่าเป็นประเภทปล่อยคลื่น แนวตั้ง หรือแนวนอน แต่โดย 95% จะเป็นการปล่อยแบบแนวนอน ซึ่งการติดไว้กับผนัง คลื่นที่ถูกปล่อยออกมาไม่มีพื้นรองรับ ทำให้กระแสคลื่นไม่ถูกอยู่ในจุดที่ควรอยู่


กรณีที่ 2. สภาพแวดล้อม พื้นที่ ความทึบแสง

ข้อนี้หลายท่านมักมองข้าม แน่นอนว่าเครื่องไล่หนูนั้นสามารถไล่ได้โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยร้อยละ 70-80% อีก 30-20% นั้นจะเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ เช่น พื้นที่แหลงอาหาร ซุปเปร์มาเก็ตแบบเปิด/ท่อน้ำทิ้ง/อาณาเขต/พื้นที่ป่า/พื้นที่เปิด

ตามที่กล่าวมาพื้นที่ดังกล่าวเป็นสภาพแวดล้อมที่เราไม่สามารถควบคุมได้ โดยหนูจะมีแหล่งที่อยู่แบบอาณาเขตตามแหล่งอาหาร หากการใช้เครื่องไล่หนู นำไปติดตั้งแหล่งรวมอาณาเขตและปัจจัยสภาพแวดล้อมที่ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เช่น ซุปเปอร์มาเก็ตแบบเปิด จะไม่สามารถใช้งาน เพราะมีการคุ้นชินต่อเสียงรอบข้างและสามารถปรับตัวอยู่กับแหล่งพื้นที่นั้นๆได้ จึงเป็นสาเหตุที่เครื่องไม่สามารถปรับสภาพวงจรในการอาศัยของมันได้ แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยความทึบแสงเราสามารถแก้ไขได้ เนื่องจากหนูมักจะชอบอยู่ในจุดที่ทึบแสง สิ่งของรก จึงเป็นที่อาศัยอย่างดี หากจัดการกับความทึบแสงได้ ก็จะช่วยลดปริมาณหนูที่เข้ามาอาศัยได้มากขึ้นเช่นกัน

กรณีที่ 3. การเลือกเครื่องไม่ตรงกับพื้นที่

ข้อนี้หลายท่านมักจะสับสนกับข้อที่ 2 ซึ่งจริงๆต้องบอกว่า การเลือกเครื่องให้ตรงกับพื้นที่นั้น  พื้นที่ที่ควรใช้งาน ควรเป็นพื้นที่ปิด เช่น บ้าน/ออฟฟิศ/ฝ้าเพดาน/โกดัง/ห้องอาหาร พื้นที่บางจุดมีปริมาณเนื้อที่มากเกินไปทำให้ การใช้เครื่องที่มีรัศมีครอบคลุมน้อยนั้นไม่เป็นผล ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่สำนักงาน 100 ตรม. ควรเลือกเครื่องที่มีรัศมีการครอบคลุม ไม่ต่ำกว่า 100 ตรม. เพราะนั่นหมายความว่า พื้นที่ใน 100 ตรม ก็มักจะมีสิ่งกีดขวางรวมอยู่ด้วย ทำให้คลื่นลดหลั่นลงมาเมื่อกระทบกับสิ่งขีดขวาง



กรณีที่ 4. มาตรฐานเครื่อง

คงทราบดีกว่า ไม่ใช่เครื่องไล่หนูทุกประเภทจะมีมาตรฐานเหมือนกันหมด ปัจจุบันนี้เครื่องไล่หนูในท้องตลอดมีของปลอมก็ไม่น้อย มาตรฐานการผลิตเป็นสิ่งทำคัญเพื่อยืนยันว่า เครื่องมีประสิทธิภาพ โดยเครื่องที่จะใช้ไล่หนูควรเป็นเครื่องที่ผ่านการ QC PASS ซึ่งวรจรการทำงานจะแตกต่างจากเครื่องทั่วไป 

เครื่องไล่หนูเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยในบ้านระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้หลายๆอย่างควรเริ่มต้นที่ความสะอาดเป็นหลัก เพราะการใช้เครื่องไล่หนูเพียงอย่างเดียวนอกจากจะช่วยได้มากถึง 70-80% แล้ว ความสะอาดก็สำคัญไม่แพ้กัน 


เลือกเครื่องไล่หนูให้ตรงกับพื้นที่ใช้งาน

ผู้เขียน ฮิวโก้ 
Author: HuGo ANTIPEST