1. ไล่หนู ด้วยสมุนไพรข่า พลู กระเทียม เกลือ
เพียงแค่นำใบพลูสด 4 ขีด มานึ่งจนสุก หลังจากนั้นให้นำใบพลูกนี้ไปโชกหรือบดให้ละเอียด ผสมด้วยข่าและกระเทียมอย่างละ 3 ขีด บดให้เข้ากัน แล้วนำส่วนผสมนี้ไปใส่ในน้ำเกลือที่ต้มสุก คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วตักใส่ภาชนะไปตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่าหนูจะอาศัยอยู่ เมื่อหนูได้กลิ่นของสมุนไพรเหล่านี้ ก็วิ่งหนีไป แต่วิธีนี้ก็มีจุดอ่อนคือ แค่ไล่หนูไปชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้
2. ไล่หนู ด้วยสะระแหน่
กลิ่นฉุนของสะระแหน่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของหนูสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นของน้ำมันสะระแหน่ เพราะฉะนั้นเพียงแค่หยดน้ำมันสะระแหน่ที่จำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาดกับสำลี โดยต้องชุบน้ำมันให้ชุ่มสำลี หลังจากนั้นให้ไปวางตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คาดว่าหนูจะไปอาศัยอยู่ เมื่อหนูได้กลิ่นฉุนของน้ำมันสะระแหน่ก็จะหายไปเองค่ะ แต่เมื่อกลิ่นหายไป เจ้าหนูก็อาจจะกลับมาได้อีกทุกเมื่อนะคะ
3. ไล่หนู ด้วยน้ำมันหอมระเหย
กลิ่นหอม ๆ ของน้ำมันหอมระเหยก็เป็นอีกกลิ่นหนึ่งที่เจ้าหนูทั้งหลายมักไม่ชอบ ดังนั้น เราก็ใช้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยที่เป็นกลิ่นดอกไม้หวาน ๆ อย่างกลิ่นกุหลาบ กลิ่นดอกกล้วยไม้ ดอกบัว ดอกลิลลี่ หรือดอกลาเวนเดอร์ ชุบกับสำลีให้ชุ่ม แล้วนำไปวางตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่าหนูจะอาศัยอยู่ รับรองว่ากลิ่นนี้ไล่หนูไปได้แน่นอน
4. ไล่หนู ด้วยสมุนไพรมะกรูด ลูกยอ พริกแกงแบบเผ็ด
วิธีนี้นอกจากจะใช้ไล่หนูในนาข้าวได้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในบ้านเรือนได้อีกด้วย โดยใช้ลูกยอ มะกรูด และพริกแกงแบบเผ็ด ในส่วนผสมที่เท่ากันมาบดละเอียด เคิมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมสูงประมาณ 1 นิ้ว ทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นให้นำมากรองเอาแต่น้ำ แล้วเอาไปผสมกับน้ำเปล่า 20 ลิตร ซึ่งปกติชาวนาจะใช้ฉีดนาข้าว แต่สำหรับบ้านเรือนอาจจะแปรงฉีดฟอกกี้พ่นให้ทั่วบริเวณที่คาดว่ามีหนูอาศัยอยู่นั่นเอง
ซึ่งวิธีการไล่หนูทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นหนึ่งในวิธีโบราณยอดฮิต ที่หลายบ้านนิยมใช้กัน แต่ก็ไม่สามารถไล่หนูได้ถาวรนะคะ เพราะฉะนั้นหากบ้านไหนอยากไล่หนูและแมลงต่างๆ ออกไปได้ง่ายๆ ในระยะยาวแล้วล่ะก็ เครื่องไล่หนู และแมลงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ได้ผลจริง เห็นผลเร็ว ไม่ต้องเปลืองแรง เพียงแค่ติดสัญญาณไล่หนูและแมลงเท่านั้น รับประกันว่าเจ้าหนูตัวร้ายจะไม่กลับมากวนใจคุณได้ง่ายๆ อีกต่อไป
ข้อควรระวัง-ในการกำจัดหนูด้วย-เครื่องไล่หนู
วิธีกำจัดหนูในร้านอาหารแบบไหน-ง่ายที่สุด
เปิดร้าน | 20 ม.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |